"ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ต้านทานเกมรุกของ "อาซูลกราน่า" บาร์เซโลน่า ไม่ไหว หลังเป็นฝ่ายเปิดบ้านแพ้ไป 0-2 โดยเกมนี้ ลีโอเนล เมสซี่ ดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมเหมาทำคนเดียวทั้งสองประตู ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559
อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 0-2 บาร์เซโลน่า (สเปน)
สนาม: อาร์เซน่อล สเตเดี้ยม, (ลอนดอน, อังกฤษ)
ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้ 22 นาที เจ้าบ้านได้โอกาสก่อน เมื่อ เมซุต โอซิล ไหลคืนมาให้กับ เอคตอร์ เบเยริน ยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษติดบล็อคบอลเด้งมาทาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ซัดจากระยะแค่ 8 หลา ติดเซฟของ มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น นายทวารบาร์ซ่า
บาร์ซ่า ได้ลุ้นครั้งแรกในนาทีที่ 31 จากจังหวะที่ เนย์มาร์ สตาร์แซมบ้า โยนให้กับ ลีโอเนล เมสซี่ เทคตัวโหม่งในกรอบเขตโทษบอลข้ามคานไป
หกนาทีต่อมา อาร์เซน่อล โต้กลับเร็วขึ้นมาทาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน พาบอลกระชากขึ้นมาทางด้านขวา แต่โดน ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ วิ่งมาหวดสกัดทิ้งออกข้างไปได้ โดยจังหวะนี้ตัวปะทะกันรุนแรงจนเจ็บทั้งคู่ ต้องปฐมพยาบาลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเล่นต่อไปได้
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก บาร์ซ่า มีโอกาสจากจังหวะที่ เมสซี่ ผ่านบอลให้กับ หลุยส์ ซัวเรซ เหยียดขายิงทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่โดนสกัดไว้ได้
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 45+1 เจ้าบุญทุ่ม มีโอกาสอีกครั้ง บุสเก็ตส์ วางยาวออกมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาให้ ดาเนียล อัลเวส กระโดดแปบอลเข้ากลางให้ หลุยส์ ซัวเรซ โขกจากระยะแค่ 6 หลา โล่งๆ บอลหลุดเสาไกลไปอย่างไม่น่าเชื่อ หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 4 นาที บาร์ซ่า ลุยเข้าใส่ทันที มีโอกาสก่อน อันเดรส อิเนียสต้า จ่ายทะลุให้กับ เนย์มาร์ ส่องด้วยขวาในกรอบเขตโทษติดเซฟของ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารอาร์เซน่อล
กระเถิบมานาทีที่ 50 อาร์เซน่อล เปลี่ยนเอา ธีโอ วัลค็อตต์ ลงมาเล่นแทน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่มีอาการบาดเจ็บ
หนึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน ไอ้ปืนใหญ่ น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ โอซิล โยนให้กับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ทะยานขึ้นโหม่งบอลจะเข้าอยู่แล้ว แต่ มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น นายทวารบารืซ่า พุ่งปัดทิ้งออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ล่วงเลยมานาทีที่ 66 อาร์เซน่อล มีลุ้นอีก เมื่อ อเล็กซิส ซานเชซ ได้กดด้วยขวาติดบล็อค อิเนียสต้า เด้งมาเข้าทางของ แรมซี่ย์ ยิงซ้ำข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีต่อมา บาร์ซ่า โต้กลับมา เมสซี่ ได้กดด้วยซ้าย แต่โดน แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ กัปตันทีมอาร์เซน่อล พุ่งมาขวางไว้ได้
อย่างไรก็ตามนาทีที่ 71 เจ้าบุญทุ่ม เป็นฝ่ายชิงขึ้นนำก่อนจนได้จากจังหวะที่ ซัวเรซ ชิ่งเข้าในให้กับ เนย์มาร์ ไหลจากกราบซ้ายเข้าในกรอบเขตโทษให้ ลีโอเนล เมสซี่ ดึงจังหวะนิดหนึ่ง ก่อนชิปด้วยซ้ายกลางกรอบเขตโทษบอลข้ามตัว ปีเตอร์ เช็ก นายทวารอาร์เซน่อล เข้าไปอย่างนิ่มๆให้ บาร์เซโลน่า นำก่อน 1-0
จากนั้นนาทีที่ 78 บาร์ซ่า น่าได้ประตูที่สอง เมื่อ เนย์มาร์ ยิงไปติดบล็อคเด้งมาเข้าทาง เมสซี่ หมุนจ่ายออกมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาให้ หลุยส์ ซัวเรซ จับแล้วยิงด้วยขวาที่เสาแรก บอลชนเสาเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
ท้ายเกมนาทีที่ 83 เจ้าบุญทุ่ม มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ มาติเยอ ฟลามินี่ ที่ลงมาเป็นสำรองไปสกัด ลีโอเนล เมสซี่ จนล้มลงไปในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ทันที ก่อนที่ เมสซี่ ลุกขึ้นมาสังหารด้วยซ้ายเข้ากลางประตูไปให้ บาร์ซ่า นำห่าง 2-0 และเป็นประตูที่สองของเมสซี่ ในเกมนี้แล้ว
สองนาทีต่อมา เคราร์ด ปีเก้ กองหลังบาร์ซ่า ไปทำฟาวล์ เวลเบ็ค เลยรับใบเหลืองไป ส่งผลให้ ปีเก้ จะติดโทษแบนในเกมนัดที่สอง
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม บาร์เซโลน่า บุกมาชนะ 2-0 เก็บความได้เปรียบ ก่อนเจอกันนัดสองที่คัมป์ นู วันพุธที่ 16 มีนาคม นี้
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล: ปีเตอร์ เช็ก - เอคตอร์ เบเยริน, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ (กัปตันทีม), โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, นาโช่ มอนเรอัล - อารอน แรมซี่ย์, ฟร็องซิส โกเกแล็ง - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเชซ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
สำรอง: ดาวิด ออสปิน่า (ผู้รักษาประตู) - คีแรน กิ๊บบ์ส, มาติเยอ ฟลามินี่, คาลั่ม แชมเบอร์ส, โฮเอล แคมป์เบลล์, ธีโอ วัลค็อตต์, แดนนี่ เวลเบ็ค
บาร์เซโลน่า: มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น - ดาเนียล อัลเวส, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เคราร์ด ปีเก้, จอร์ดี้ อัลบา - อีวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า (กัปตันทีม) - ลีโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, เนย์มาร์
สำรอง: เคลาดิโอ บราโว่ (ผู้รักษาประตู) - อาเดรียโน่ คอร์เรอา, โธมัส แฟร์มาเล่น, เฌเรมี่ มาติเยอ, เซร์จี้ โรเบร์โต้, อเล็กซ์ บีดาล, มูนีร์ เอล อัดดาดี้
ผู้ตัดสิน: คูเนย์ต ซาคีร์ (ตุรกี)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยังหวัง! เวนเกอร์ไม่ท้อขอสู้ต่อที่ คัมป์นู
ที่มา:www.msn.com